วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ | World History



การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ คืออะไร ?
ตอบ การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ คือ การเกิดใหม่ของอรยธรรมกรีก-โรมัน ที่ได้หายไปก่อนที่จะมีการปกครองแบบฟิวดัล

สาเหตุของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เกิดจากอะไร?
ตอบ  สาเหตุของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เกิดจากสงครามครูเสดที่ชาวตะวันตกได้ติดต่อกับชาวตะวันออก ทำให้เกิดความสนใจในศิลปวิทยาการต่างๆของชาวตะวันออก  จึงได้มีการศึกษา การสร้างงาน และการแข่งขันกัน โดยมีอิตาลีเป็นแห่งแรกที่สนใจงานด้านศิลปะเลียนแบบกรีก-โรมัน 

ลักษณะของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เป็นอย่างไร ?
ตอบ  ลักษณะของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เป็นการให้ความสำคัญกับการศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ โดยไม่สนใจศึกษาวิชาทางศาสนา และให้ความสำคัญกับความสุขทางโลกของมนุษย์ แม้จะมีบาปติดตัว  จึงทำให้เกิดการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ ทำให้ได้ศึกษางานเขียนต่างๆของกรีก-โรมัน ที่เรียกว่า งานคลาสสิค 
**นักปราชญ์คนแรกที่ได้รับยกย่องว่าเป็นนักมนุษยนิยม คือ ฟรันเซสโก เปเตรกา

มรดกทางวัฒนธรรมของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ได้แก่ ?
1.บทเพลงรัก ของโจวานนี บ๊อกกัซซิโอ
2.โรมิโอและจูเลียต ของ วิลเลียม เชกสเปียร์
3.การวาดภาพแบบสามมิติ ของ มาซักซิโอ
4.ภาพวาดโมนา ลิซา ของ ลีโอนาโด ดา วินซี

การปฏิวัติอุตสาหกรรม l World History



การปฏิวัติอุตสาหกรรม
      ก่อนอื่นมารู้จักคำว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม กันก่อน การปฏิวัติอุตสาหกรรม คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีในการผลิตจาการใช้แรงงาน คนสัตว์ และพลังธรรมชาติมาเป็นการผลิตโดยใช้เครื่องจักรกลที่มีกำลังผลิตสูง
       การปฏิวัติอุตสาหกรรมแบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
1.การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะแรก
       ช่วง 1750 – 1780  ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใช้ ไอน้ำ และถ่านหินเป็นพลังงาน มีการนำไอน้ำและเครื่องจักรไอน้ำมาใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้า(ในอังกฤษอุตสาหกรรมทอผ้าเจริญมาก) ค..1769  เจมส์  วัตต์ ได้ผลิตเครื่องจักรไอน้ำและมีการนำมาใช้ ทำให้อุตสาหกรรมอื่นๆพัฒนาขึ้นด้วย เกิดการขยายตัวของวัตถุดิบที่จำเป็นต่อพัฒนาการอุตสาหกรรม เช่น เหล็ก ถ่านหิน นำไปสู่การขนส่งและคมนาคม
2.การปฏิวัติอุตสาหกรรมระระที่สอง
        ระหว่าง ..1870 ถึงปัจจุบัน มีการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆ และช่วงนี้จะใช้ ไฟฟ้า น้ำมัน และพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ ก่อเกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆมีการพัฒนาเครื่องจักรกล เครื่องมือและเครื่องคอมพิวเตอร์ เกิดเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรหุ่นยนต์ในการผลิตแทนแรงงานคน การผลิตจึงขยายเพื่อตอบสนองความต้องการของคนจำนวนมากๆได้
ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
          ผลกระทบคือ ประชากรโลกเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอัตราการตายลดลงจากความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข การผลิตอาหารในอุตสาหกรรมที่เพียงพอ นครเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว ระบบแบบทุนนิยมพัฒนาและเติบโตอย่างมาก การเมืองรูปแบบ ประชาธิปไตยขยายตัวเกิดการปฏิรูปทางการเมืองที่ดีขึ้น เกิดระบอบคอมมิวนิสต์จากการปฏิวัติรัสเซียเป็นครั้งแรก ทำให้เกิดการหาดินแดน แสวงหาวัตถุดิบ และแหล่งทุนใหม่ เพื่อความเข้มแข็งของยุโรปในฐานะประเทศอุตสาหกรรม

ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล l World History




ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล
ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล คืออะไร ?
ตอบ ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล เป็นระบอบการปกครองแบบกระจายอำนาจ โดยมีลอร์ด load ให้ที่ดินแก่วัสซัล vassal ซึ่งวัสซัลต้องให้ความเคารพเชื่อฟังลอร์ด เพื่อตอบแทนสิทธิที่ได้ใช้พื้นดินในการทำเกษตรกรรม และลอร์ดต้องให้ความคุ้มครองแก่วัสซัล
***ที่ดินเป็นของพระมหากษัตริย์  และวัสซัลสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้

สังคมของระบอบการปกครองแบบฟิวดัล  เป็นอย่างไร ?
ตอบ  สังคมของระบอบการปกครองแบบฟิวดัล จะแบ่งประชากรเป็น 3 ฐานันดร ได้แก่
1.ฐานันดรที่ ๑ คือ พระราชวงศ์-ขุนนาง(อัศวิน*)  มีหน้าที่ในการต่อสู้
2.ฐานันดรที่ ๒ คือ นักบวช  มีหน้าที่สวดมนต์ภาวนา
3.ฐานันดรที่ ๓ คือ ชาวนา-ทาสติดดิน  มีหน้าที่ทำไร่ ไถนา
*อัศวิน คือ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากลอร์ด เพื่อต่อสู้และออกรบในการทับของลอร์ด

ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล เสื่อมได้อย่างไร ?
ตอบ ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล เสื่อมลงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบฟิวดัล ในยุคของการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยที่วัสซัลสามารถซื้อที่ดินจากลอร์ดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองได้  จึงมีผลทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลอร์ดกับวัสซัลลดลง จึงส่งผลให้ระบอบการปกครองแบบฟิวดัลเสื่อมลง

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

การปฏิรูปศาสนา l World History



            การปฏิรูปศาสนา (Reformation) เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการไม่เห็นด้วยของผู้คนบางกลุ่มที่มีต่อศาสนาโรมันคาทอลิก ก่อให้เกิดการปฏิรูปศาสนาขึ้น ผลก็คือทำให้คริสต์ศาสนาในยุโรปได้แตกแยกเป็น 2 นิกาย คือ โรมันคาทอลิก และโปรเตสแตนต์ (Protestant)
            เริ่มปฏิรูปศาสนา
            ในยุคสมัยแห่งความเสื่อมของคริสต์ศาสนาที่เต็มไปด้วยความโลภของพระชั้นผู้ใหญ่ การซื้อขายใบไถ่บาป การเรียกเก็บภาษีจากประชาชนที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งการซื้อขายตำแหน่งของพวกบาทหลวงทำให้ประชาชนบางกลุ่มเกิดความไม่พอใจขึ้น โดยเฉพาะมาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) นักบวชชาวเยอรมันซึ่งเป็นผู้ที่เคร่งศาสนาและเห็นว่าวิธีการจ่ายเงินเพื่อไถ่บาปเป็นสิ่งหลอกลวงประชาชน เขาเป็นผู้ที่เขียน กลักการ 95 ประการ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในเยอรมณีกลุ่มผู้ที่ไม่พอใจในการปกครองของคริสต์ศาสนา แต่เขากลับถูกขับไล่ออกจากคริสต์ศาสนาโดยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีด แต่ลูเธอร์ก็ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้าชาย เฟรเดอริก (Friederick the wise) ผู้ครองแคว้นแซกโซนีอุปถัมภ์เขาไว้ ทำให้เขาสามารถเผยแผ่คริสต์สาสนาตามแนวทางของเขาต่อไปได้ โดยการแปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาเยอรมันและแยกเป็นนิกายโปรเตสแตนต์ (Protestant)
 มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther)
           
สาเหตุการปฏิรูปศาสนา มีดังนี้
สาเหตุทางการศาสนา
1.      ความเสื่อมของศาสนจักรในปลาย ศตวรรษที่ 14 ถึงตอนต้นศตวรรษที่ 15
2.      พระมีความมั่งคั่งร่ำรวย มีที่ดินมากเกินไป พระประพฤติผิดศีลธรรมไม่เคร่งครัด
3.      การไม่พอใจในการซื้อตำแหน่งของพระ พระที่ได้รับตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ไม่สมบูรณ์
4.      มุ่งพิธีกรรมมากเกินไป พระเรียกเก็บเงินที่ได้จากการประกอบพิธีทางศาสนามากเกินไป
5.      การขายไถ่บาป ซึ่งเป็นการค้ามากกว่าศรัทธา

·         สาเหตุทางการเมือง
1.      สันตะปาปาสนใจเรื่องทางโลกมากกว่าทางศาสนา เช่นเป็นผู้นำทัพเข้าสู่สงคราม
2.      กษัตริย์ต้องการขจัดอำนาจอิทธิพลของสันตะปาปา เพื่อหาผลประโยชน์จากที่ดินของวัด
·         สาเหตุทางเศรษฐกิจ
1.      ชนชั้นกลางให้การสนับสนุนการปฏิรูปศาสนา เพื่อยกเลิกระเบียบต่าง ๆ ที่ล้าสมัยให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจสมัยใหม่
2.      สันตะปาปาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้ปนระชาชนไม่พอใจ

ผลของการปฏิรูปการศาสนา มีดังนี้

1. คริสตศาสนาแบ่งออกเป็น 2 นิกาย คือ โรมันคาทอลิก มีสันตะปาปาเป็นประมุข และนิกายโปรเตสแตนต์ โดยแยกเป็นนิกายต่างๆ ทำให้ความเป็นหนึ่งของศาสนาคริสต์จบลง
2. เกิดชาตินิยม สถาบันกษัติย์มีอำนาจมากเหนือคริสตจักร

            นอกจากนี้ยังเกิดการปฏิรูปภายในของคริสต์สานาเพื่อต่อสู้ไม่ให้ชาวยุโรปหันไปนิยมนิกายโปรเตสแตนต์ที่เกิดขึ้นใหม่อีก คือ การปฏิรูปซ้อน โดยคณะเยซูอิต มีจุดประสงค์เพื่อทำให้โรมันคาทอลิกดีขึ้น ทำให้เลื่อมใสน่ายกย่องและมีวินัยขึ้น ดังนี้

1. การประชุมสังคายนาแห่งเทรนต์ เพื่อกำหนดระเบียบวินัยภายในคริสตจักร ยกเลิกการขายใบไถ่บาป และ ให้ใช้ภาษาพื้นเมืองในการสอนศาสนา
2. การปรับปรุงระเบียบวินัยของนักบวชและตั้งคณะนักบวชเพื่อการปฏิรูป เช่น คณะเยซูอิต ตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1534 เพื่อจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาและเผยแผ่ศาสนาไปยังประเทศ ต่างๆ  การปฏิรูปศาสนาของคริสตจักรทำให้เกิดมิชชันนารีจำนวนมาก เพื่อเผยแผ่คำสอนของ โรมันคาทอลิกไปทั่วโลก